explicitClick to confirm you are 18+

สังคมเครือญาติ และประชาธิปไตยฉบับชาวบ้าน: อุดมการณ์การเมืองท้องถิ่นของธนาธร จะไปด้วยกันกับวัฒนธรรมอำนาจในชุมชนท้องถิ่นได้หรือไม่?

IdeooJul 5, 2020, 10:15:59 AM
thumb_up58thumb_downmore_vert

การประกาศลงเลือกตั้งท้องถิ่น โดยยึดหลักอุดมการณ์ไม่ใช้เงินและไม่ใช้อิทธิพลเก่าของธนาธร และคณะก้าวหน้า เป็นเรื่องที่จะทำให้เห็นคำตอบหลายอย่างชัดขึ้น

ประเด็นเเรก คือ จะทำให้มายาคติเรื่อง คนในท้องถิ่นนิยมซื้อสิทธิขายเสียงนั้นเป็นเรื่องจริงหรือเท็จ

ประเด็นที่สอง ในมุมมองทางสังคมวัฒนธรรม คือ เป็นจุดที่ทำให้เห็นว่าท้องถิ่นไทยเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน เพราะผมเชื่อว่าการใช้จ่ายเงินในการเลือกตั้งท้องถิ่นนั้นโคตรจะธรรมชาติ และเป็นแบบแผนวัฒนธรรมดั้งเดิม

ในวัฒนธรรมชุมชนคนในท้องถิ่น ต้องการการแสดงออกทางสัญลักษณ์จากคนที่เขาจะเลือก คนใจถึง พึ่งพาได้ มีอิทธิพลที่ในอนาคตเขาหรือลูกหลานจะพึ่งพาผู้นำคนนั้นได้ ซึ่งมันใกล้ชิดกว่า สส. มาก เพราะคนในท้องถิ่นจริงๆ ระดับเทศบาลเมืองหรือตำบล มีส่วนเกี่ยวดองกันด้วยความเป็นเครือญาติ เรียกได้ว่าญาติพี่น้องใครสักคนในบ้านเรา ต้องเคยไปคุยและพึ่งพาญาติอีกคนของผู้นำคนนั้นแน่ๆ

และระบบเครือญาติคือรากฐานของชุมชนท้องถิ่นไทย นักวิชาการสายชุมชนศึกษาหลายคนตระหนักในเรื่องนี้ การซื้อเสียง ไม่ว่าจะด้วยเงิน หรือสัญลักษณ์อื่นๆ ที่สัมพันธ์กับอำนาจในชุมชนจึงเป็นลักษณะของ The Gift หรือเป็นการแลกเปลี่ยนต่างตอบแทน

การเป็น The Gift ในความหมายของวัฒนธรรมชุมชนดั้งเดิม จึงไม่ได้ผูกโยงกับการเป็นอุดมการณ์ประชาธิปไตย หรือภาวะที่ปัจเจกเลือกเดินตามผู้พานำทางอุดมการณ์ แต่เป็นวัฒนธรรมพานำแบบอำนาจดั้งเดิมของเครือญาติ ความเชื่อ (Shaman) หรือผู้นำทางจิตวิญาณ วัฒนธรรมพานำแบบนี้จึงเป็นที่มาของระบบหัวคะเเนนตามรากของวัฒนธรรมท้องถิ่นของเรา

ในทางเดียวกัน ความใกล้ชิดในลักษณะเครือญาติพานำแบบดั้งเดิม ก็ส่งผลให้เรื่องน้ำเน่าฉาวโฉ่ของผู้นำนั้นๆ ถูกตรวจสอบได้อย่างใกล้ชิด และการต่อต้านหรือต่อรองจะเกิดตั้งแต่การนินทา การบูลลี่ การสาปแช่ง จนทำให้ครอบครัวผู้นำที่เสื่อมความนิยมร้อนตูด ต้องทำเรื่องหรือแสดงออกว่ายังเป็นที่พึ่งแก่ชุมชนได้ ในที่นี้อาจหมายถึงการทำโครงการแจกแบบ The gift หรืองานเลี้ยงแบบ potlach ผู้นำในชุมชนจึงไม่ใคร่จะให้ลูกหลานอยู่ในชุมชนนัก อาจจะส่งไปเรียนที่อื่นๆ เพื่อขยับฐานะต่อไป

การเมืองในวัฒนธรรมชุมชน คือภาพสะท้อนการเมืองระดับชาติ การแลกเปลี่ยนต่างตอบแทนและการสร้าบอำนาจนำ อาศัยพลังเกื้อหนุนจากท้องถิ่น แต่ทั้งนี้ การเมืองในท้องถิ่นนั้นซับซ้อนกว่าเพราะตัวแสดงแต่ละคนในทางการเมืองใกล้ชิดกับชีวิตและสายสัมพันธ์ของ “คนใน” ต่างจากการลงเลือกตั้งระดับชาติที่ผ่านมา ซึ่งพรรคอนาคตใหม่ ประสบความสำเร็จจากการ “เลือกพรรค” โดยคนส่วนรวมทั้งประเทศ แต่อย่าลืมว่า ในท้องถิ่นคนที่จะเลือกคนยองคณะก้าวหน้านั้นส่วนใหญ่รู้จักเคยเห็นหน้า และใกล้ชิดคาบเกี่ยวกันอยู่บ้างในชีวิต

และที่สำคัญ ฐานเสียงของธนาธรคือคนรุ่นใหม่ที่ออกมาทำงานหรือเรียนหนังสือ แต่การเลือกตั้งท้องถิ่นวัดกันด้วยคนแก่และผู้ใหญ่ในชุมชน

การไม่ใช้เงิน หรือ The gift และ อิทธิพลท้องถิ่น หรือบุคคลที่มีอำนาจพานำของชุมชน ตามที่ธนาธร กล่าวผมยังไม่ปักใจ 100% ว่าธนาธรจะใช้กลยุทธ์นี้อย่างบริสุทธิ์

การไม่ใช้เงินแต่ใช้อุดมการณ์นั้นผมไม่กังขา เพราะ The gift มันมีหลากหลายรูปแบบ แต่อย่างหลังคือคุณจะไม่ใช้ระบบผู้มีอิทธิพลหรือผู้มีอำนาจนำในชุมชนก็จะดูท้าทาย โครงสร้างวัฒนธรรมชุชมชนไปหน่อย และหากทำได้จริงผลของการเลือกตั้งท้องถิ่นสนุกแน่ๆ เพราะมันจะให้อิทธิพลสองอย่างในการศึกษา คือ

1. ทำให้เห็นว่า สภาพโครงสร้างสังคมวัฒนธรรมท้องถิ่นเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ การเปลี่ยนนี้ส่งผลดีต่อวัฒนธรรมประชาธิปไตยที่ลดทอนความเป็นพรรคพวกเครือญาติลงแล้ว

2. หากท้องถิ่นเปลี่ยนและยึดท้องถิ่นได้ ประเทศก็เปลี่ยนไปได้ เพราะท้องถิ่นคือพลังของประเทศ

ฉะนั้นไม่ว่าใครก็ตาม อย่าทำให้ท้องถิ่นอ่อนแอ

......

ท้ายที่สุดนอกจากจะต้องตามกลยุทธ์ต่อไปของธนาธร และคณะก้าวหน้าแล้ว ก่อนอื่นเลยก็คือ มึงมาเชียร์รัฐบาลก่อน เมื่อไหร่จะให้เลือกตั้งท้องถิ่น อิตู่อิเหี้ย