explicitClick to confirm you are 18+

The Lost Horcrux. (Prologue)

Moony🌜🌜May 29, 2020, 4:43:28 PM
thumb_up26thumb_downmore_vert

สำหรับ ทอม ริดเดิ้ล ซีเนียร์ เขารู้ดีว่านี่คือบาป เขารู้ว่าสิ่งที่กำลังเกิดกับครอบครัวใหม่ของเขาก็เพราะผลพวงจากอดีต และมันคืออดีตของเขา 

ไม่

พวกเขาไม่สมควรที่จะต้องมาเจอเรื่องพวกนี้เลยสักนิดโดยเฉพาะ นาโอมิ ภรรยาที่กำลังตั้งครรภ์ลูกของเขาพวกเขาอยู่นี่ แต่ภรรยาของเขาคนนี้ไม่เหมือนใครเลยสักนิด ไม่ใช่แค่เธอไม่หวาดกลัวลูกชายของเขาที่กำลังตามล่าตัวเขา แต่เธอกลับทำทุกวิธีทางเพื่อทำให้เขาและชีวิตครอบครัวให้ปลอดภัยด้วยพละกำลังและอำนาจทั้งหมดที่เจ้าหล่อนมี

มันทำให้เขาจดจำได้อีกครั้งว่าภรรยาของเขานั้นไม่ใช่เด็กผู้หญิงที่เขาไปช่วยชีวิตไว้เข้าด้วยความบังเอิญตอนเขาเดินทางไปในป่าลึกที่เอเชียอีกต่อไปแล้ว ครอบครัวของนาโอมิเลยตอบแทนเขาด้วยการจัดงานเลี้ยงต้อนรับทอมแล้วบอกว่าเขานั้นเป็นเหมือนสมาชิกอีกคนหนึ่งของครอบครัวที่พวกเขานั้นยินดีและจะช่วยเหลือเขาทุกอย่างถ้าเขามีปัญหา เขาอยู่ที่นั่นอยู่หลายเดือนพอสมควรก่อนจะกลับมาที่อังกฤษแล้วเขียนจดหมายติดต่อกับครอบครัวของนาโอมิโดยเฉพาะตัวเจ้าหล่อนอยู่เสมอ 

จนวันหนึ่ง ไม่สิ คืนหนึ่งชายที่มีรอยแผลเป็นบนบากบนคิ้วซ้ายก็มายืนอยู่ข้างเตียงนอนของเขาในหน้าหนาวที่คฤหาสน์ของเขาพร้อมกับบอกว่าชีวิตเขานั้นกำลังตกอยู่ในอันตราย บอกว่านาโอมิเห็นภาพนิมิตรที่เขากำลังถูกลูกชายที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเขาเองนั้นกำลังตามล่าเพื่อหมายจะเอาชีวิตเขาผู้เป็นพ่อ 

เพราะงั้นทันทีที่ครอบครัวนาโอมิรู้ถึงนิมิตรพวกเขาก็ทำทุกอย่างเพื่อช่วยเหลือเขาจนลูกชายของเขาร่นถอยไป แต่ถึงอย่างนั้น ทอม ริดเดิ้ล จูเนียร์ ก็ยังคงเฝ้ารอโอกาสที่เหมาะเจาะเพื่อมาเอาชีวิตเขาไปอีกครั้ง ซึ่งเขาก็ทราบซึ้งใจมากกับสิ่งที่ครอบครัวของนาโอมิทำให้จนตัวเขานั้นก็ทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยครอบครัวหล่อนเช่นกัน

เป็นเพราะอำนาจมืดของลูกชายของเขาที่เพิ่มขึ้นทุกวันทำให้ครอบครัวของนาโอมิที่เป็นตระกูลพ่อมดและแม่มดชั้นสูงตกอยู่ในอันตรายจนพวกเขาต้องจำใจและลี้ภัยจากบ้านเกิดของตัวเอง กระจัดกระจายไปที่อื่นเพื่อให้ลิ่วล้อของลูกชายเขาตามตัวพวกเขาได้ยากขึ้น ด้วยความที่ตระกูลของทอมเป็นชนชั้นสูงแถมยังร่ำรวยมาหลายร้อยปีทำให้เขารู้สึกคนมีเส้นสายมากมายเขาเลยช่วยครอบครัวของนาโอมิได้ลี้ภัยอยู่แทบยุโรปอย่างสุขสบายไม่อยากนัก

แต่ชีวิตของเขาก็ต้องเปลี่ยนไปเมื่อวันหนึ่งนาโอมิมาปรากฏตัวที่หน้าประตูรั้วของคฤหาสน์ของเขา

พอเห็นเธออีกครั้งในรอบหลายปีเขาก็พบว่านาโอมินั้นไม่ใช่เด็กผู้หญิงแล้วที่เขาเขียนจดหมายหามาตลอดหลายปีแล้ว ดวงตาสีเข้มคมกริบ ผมดำขลับราวกับรัตติกาล ผิวสีแทนอ่อน ริมฝีปากได้รูปราวกับถูกช่างฝีมือสลักเสลาด้วยความปราณีต นาโอมิดูงดงามแล้วก็น่าหวาดหวั่นไปในขณะเดียวกันด้วยท่าทางกับแววตาแน่วแน่แสนมั่นคงนั่น 

เธอเหมือนกับเทพีโบราณในตำนานที่ถูกเล่าขานกันมาไม่มีผิดและมันทำให้ทอมตกหลุมรักนาโอมิทันทีหลังความจริงพุ่งชนเขาเต็มแรงว่าเด็กผู้หญิงที่เขาเอ็นดูนั้นไม่อยู่แล้ว มีก็เพียงแต่หญิงสาวที่แทบไม่หวาดกลัวสิ่งใดคนตรงหน้าเขาคนนี้เท่านั้น ไม่นานจากนั้นพวกเขาก็แต่งงานกันอย่างลับ ๆ ก่อนใช้ชีวิตคู่ด้วยกันมาสิบแปดปี

พวกเขาไม่เคยพูดเรื่องลูกเพราะทั้งสองต่างก็พอใจในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ดี แต่ก็ไม่ได้ตกลงกันว่าจะไม่มี แค่ตลอดสิบแปดปีที่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันมันไม่ได้เกิดขึ้นก็เท่านั้น

จนเมื่อหลายเดือนก่อนนาโอมิเริ่มมีอาการแปลก ๆ ทำให้เขานั้นกังวลเลยคะยั้นคะยอพาเจ้าหล่อนไปหาหมอแล้วก็พบว่าพวกเขากำลังจะมีลูก ข่าวที่รู้ว่าภรรยาของเขากำลังตั้งครรภ์นั้นทำเขาดีใจจนตัวลอย นาโอมิก็เหมือนกันทันทีที่หมอยืนยันว่าเธอตั้งครรภ์ได้สามอาทิตย์แล้วเจ้าหล่อนก็คว้าเขาไปจูบก่อนทั้งสองคนจะหัวเราะด้วยความสุขนั่น

แล้วมันก็ทำให้เขาเริ่มกังวลแล้วก็หวาดกลัวขึ้นมาอีกถ้าลูกชายของเขารู้ว่าเขากำลังจะมีลูกอีกคน ลูกชายเขานั้นจะทำยังไง ซึ่งทอมก็รู้คำตอบดีว่าภรรยาและลูกที่กำลังจะลืมตามาดูโลกนั้นไม่มีทางที่จะมีชีวิตต่อไปแน่ เขามั่นใจ 

แถมตอนนี้อายุเขาก็พาไปหกสิบเอ็ดแล้วแม้เป็นเพราะพลังเวทย์มนต์โบราณหรือไม่ก็ชาสมุนไพรของตระกูลนาโอมิจะทำให้เขาแก่ช้าลงไปหลายสิบปีแต่ในใจแต่มันก็หนีความจริงไปไม่ว่าเขาอายุมากแล้ว มันทำให้เขาคิดว่าตัวเขาจะหนีชะตากรรมของเขาที่ลูกชายยังคงตามล่าเพื่อจะเอาชีวิตของเขาไปได้กี่น้ำกัน

“ที่รัก? ไหนชาล่ะคะ?” เสียงของนาโอมิทำให้เขาสะดุ้งก่อนจะเหลือบมองไปที่เจ้าหล่อนที่กำลังลูบท้องกลมโตของตัวเองด้วยความรักใคร่

“โทษทีจ๊ะ” เขาพูดพร้อมกับรีบเดินเอาแก้วชาไปให้ “พวกคุณเป็นไงบ้าง?” นาโอมิหัวเราะคิกก่อนรับแก้วชาไปจิบ

“มีความสุขสิคะ” ภรรยาเขาหัวเราะคิกคักขึ้นมาอีกตอนลูบท้องกลมโตของตัวเองหลังรู้สึกได้ว่าเตะท้องเธออีกครั้งเพราะได้ยินเสียงหัวเราะของเธอเข้า

“ใช่มั้ยอีฟวี่? พวกเรามีความสุขใช่มั้ยจ๊ะ?” ทอมหัวเราะในลำคอกับชื่อเล่นที่คนรักตั้งให้ลูกที่ยังไม่ได้เกิดของพวกเขาก่อนจะเดินไปนั่งอยู่ข้าง ๆ หล่อนแล้วใช้โอบไหล่เจ้าตัวไว้หลังเขาคิดว่าตัวเองโชคดีแค่ไหนที่มีโอกาสได้มีครอบครัวที่มีความสุขแบบนี้แบบใครหลายคนหลังการแต่งงานของเขาไม่ได้ให้ความรู้สึกแบบนี้เลยแม้แต่น้อย

แน่นอนว่าทอมรู้ดีที่ลูกชายอยากฆ่าเขานั้นเพราะสิ่งที่เขาทำกับอดีตภรรยาและลูกชายหลังหล่อนเลิกใช้ยาเสน่ห์กับเขาแล้วบอกความจริงทุกอย่างให้เขาได้รู้ว่าทำไมพวกเขาถึงแต่งงานกันได้ สิ่งที่เขารู้สึกคือตัวเองเหมือนโดนหักหน้า 

โดนพรากชีวิตวัยหนุ่มของตัวเองไปแล้วถูกบังคับให้ใช้ชีวิตที่เขาไม่ได้ต้องการเลยแม้แต่น้อย เพราะงั้นทันทีที่เขาพ้นจากอำนาจเวทย์มนต์เขาก็หันหลังเดินออกไปทิ้งผู้หญิงที่เขาเคยเรียกว่าภรรยาและลูกไว้ 

เขาก็เหมือนมนุษย์ทุกคนบนโลกที่ทำผิดพลาดและสิ่งเดียวที่เขาอยากกลับไปแก้ไขที่สุดก็คือการที่ทิ้งลูกชายที่เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของตัวเองอย่างไร้เยื่อใยแบบนั้น มันทำให้ทอมคิดและถามตัวเองเสมอ 

มันคงจะไม่เลวร้ายแบบนี้ถ้าเขาทำตัวเป็นพ่อให้ลูกชายแม้ชีวิตคู่กับแม่เขานั้นจะจบแล้งก็ตาม

แต่มันสายไป เพราะกว่าเขาจะมาคิดได้ก็ตอนสิบกว่าปีต่อมาตอนนั้นหัวใจของลูกชายของเขาก็ดำดิ่งลงไปเกินกว่าจะช่วยเหลือแล้ว

“ว่าแต่คุณเถอะค่ะ? มีเรื่องอะไรหรอคะ? คุณกังวลเรื่องลูกชายของคุณใช่มั้ย?” นี่เป็นหนึ่งในล้านเหตุผลที่เขารักในตัวผู้หญิงคนนี้ตอนหันไปมองหล่อน ภรรยาของเขานั้นทุกครั้งที่เห็นใครที่เธอรู้จักกำลังมีเรื่องทุกข์ใจเธอจะไม่แสร้งทำเป็นไม่เห็นแต่เธอจะทำทุกวิธีทางเพื่อช่วยเขาคนนั้นหรืออย่างน้อยก็ให้พวกเขาพูดถึงเรื่องที่พวกเขากำลังทุกข์อยู่ออกมากีดี

“คุณแน่ใจนะว่าคนของคุณเก่งอย่างที่คุณว่า?” เขาแกล้งแซวภรรยาก่อนจะหัวเราะในลำคอเมื่อหล่อนจ้องเขม็งด้วยความไม่พอใจ

“พวกเขาทำทุกอย่างแล้วก็ทุกทางที่ทำได้แล้วนะคะ และแน่นอนว่าพวกเขาเก่ง พวกเขาทำงานรับใช้ครอบครัวของฉันมาหลายรุ่นเลยนะคะ ต้องโทษลูกชายของคุณต่างหากล่ะ ใครใช้ให้ลูกชายของคุณลบร่องรอยได้เก่งขนาดนี้กัน” นาโอมิอุบอิบแล้วยกแก้วชาจิบ

เสียงเคาะขอบประตูทำให้สามีภรรยาหันควับไปมองก่อนจะเห็น มาร์โค หลิว ผู้มีรอยแผลบากอยู่บนคิ้วข้างซ้ายยืนอยู่ตรงนั้นด้วยท่าทางนอบน้อย พอนาโอมิทำท่าอนุญาติเข้ามาได้คนรับใช้ผู้ซื่อสัตย์ของเธอก็เดินมาหาทั้งสองเพื่อจะแจ้งข่าว

“กระผมเพิ่งได้ข่าวจากหนึ่งในทีมคุ้นหา บอกว่าพบเขาปรากฏตัวที่สก็อตแลนด์ขอรับ”

“หมายความว่าเขากลับไปที่ฮอกวอตส์” ทอมพึมพำ

“เขาคงกลับมาเพื่อทิ้งบางอย่างไว้ ไม่ก็มาเอาบางอย่างไป” นาโอมิเสริม ใบหน้าหมองลงขณะถอนหายใจตอนมองหน้ามาร์โค “ครั้งนี้เขาฆ่าไปกี่คน?”

มาร์โคขบกราม “นักเรียนสามคนที่บังเอิญเข้าไปขวางทางเขาเข้าครับ”

พอได้ยินแบบนั้นไหล่ของทอมก็ลู่ลง เขาโน้มตัวไปข้างหน้า ฟุบใบหน้าไว้ในฝ่ามือพร้อมกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขารู้ว่านี่คือความผิดของเขา ตัวเขานั้นมีส่วนผิดที่ทำให้ลูกชายกลายเป็นคนที่ไร้หัวใจและจิตใจเต็มไปด้วยความเกลียดแบบนั้น แน่นอนว่ามันเป็นความผิดของเขาเพราะดูแล้วยังไงลูกชายที่เขาไม่เคยเหลียวแลก็ได้ความเย่อหยิ่งยโสและความทะเยอทะยานที่ไม่สนใจชีวิตผู้อื่นมาจากทอมเมื่อตอนยังเยาว์มาทั้งนั้น

มันทำให้เขาคิดขึ้นมาอีกถ้าเขาทำตัวเป็นพ่อให้กับลูกในไส้สักครั้งในชีวิต 

เรื่องแบบนี้อาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้

นาโอมิลูบหลังสามีเป็นการปลอบ มุมปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มอบอุ่นตอนเขาหันมามองเธอ

“เขาเป็นคนที่ฆ่านักเรียนพวกนั้น ไม่ใช่คุณ มันไม่ยุติธรรมสำหรับคุณเลยสักนิดที่คุณจะยอมรับผิดในความผิดที่ไม่ใช่ของคุณ แล้วลงโทษตัวเองและครอบครัวของเราด้วยบาปของเขานะคะ” น้ำเสียงสงบและอ่อนโยนของภรรยาทำให้เขารู้สึกเหมือนมีก้อนแข็ง ๆ มากระจุกอยู่ตรงลำคอ

“แต่ถ้า--”

“ทอม ที่รักคะ เรื่องที่มันเกิดขึ้นไปแล้วเราแก้ไขมันไม่ได้” นาโอมิพูดเสียงเข้มก่อนถอนหายใจ “เราย้อนกลับไปแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตไม่ได้แล้ว ที่เราแก้ไขสิ่งที่จะเกิดในอนาคตได้” ทอมหลับตาลงเมื่อภรรยายื่นมือมาจับใบหน้าเขาเอาไว้

“เพราะงั้นเราถึงทำทุกอย่างเพื่อหยุดเขายังไงคะ พวกเราเป็นสมาชิกที่หลงเหลืออยู่ของเขาเพราะงั้นมันเลยเป็นงานของเราต้องหยุดเขาไม่ใช่แค่เพื่อตัวเขาเอง แต่เพื่อชีวิตของคนบริสุทธิ์ที่อาจกลายเป็นเหยื่อของเขาด้วย” คำพูดจากคนรักทำเขาไม่รู้จะเอ่ยอะไรออกมานอกจากเอียงใบหน้าเข้าหาสัมผัสที่แสนจะอ่อนโยนจากผู้หญิงคนนี้ที่เปลี่ยนเขาแทบจะเป็นอีกคนเมื่อเขาได้พบกับเธอ 

เขาไม่เคยเข้าใจเลยสักนิดว่าคนสารเลวอย่างเขานั้นได้ผู้หญิงแสนประเสริฐอย่างหล่อนมาครอบครองได้ยังไง

“ขอบคุณ” ทอมเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นพร่า

นาโอมิทำจมูกย่นก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อเขาลืมตามองเธออีกครั้ง “ไม่ค่ะ” เขามองดูเธอที่ยกมือมาโอบท้องกลมโตของตัวเอง นัยน์ตาสีเข้มคู่นั้นเป็นประกายด้วยความรักอย่างล้นเหลือ

“ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณ” แม้ทั้งคู่จะรู้ดีว่าช่วงเวลาแห่งความสุขนี้จะมีอยู่ได้ไม่นาน เพราะรู้ดีว่าวันหนึ่งพวกเขาจะถูกพรากไปจากกันและกัน แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ไม่ได้ทำให้ทั้งสองกลัวนอกจากรักกันมากขึ้นและทำทุกช่วงเวลานี้ให้คุ้มค่าที่สุดเท่านั้น 

ก่อนที่ความตายจะพรากพวกเขาไป