explicitClick to confirm you are 18+

So-far Network

prity6026Jul 10, 2020, 8:53:40 AM
thumb_up13thumb_downmore_vert

ในช่วงของโรคระบาด ทำให้การทำงานต้องทำจากที่บ้านก่อนส่งให้กับเจ้านายทางอีเมล์ ไหนจะประชุมออนไลน์อีก แม้งานจะทำในสถานที่ส่วนตัวของตนเอง แต่นั่นก็เป็นความวุ่นวายเป็นเท่าทวีกับออฟฟิศ เพราะคนร่วมงานเกรงใจกันน้อยลงชอบส่งงานตอนดึก ๆ บอสก็สั่งตอนจะนอน เสมือนว่าบุพการีของคนทำไม่ได้เน้นเรื่องมารยาทเสียอย่างนั้น เงินเดือนก็ไม่ได้เพิ่มแถมลดลงอีกต่างหาก ‘ไม้’ปิดมือถือสำหรับติดต่องานทันที จะโทรอะไรนักหนานี่ห้าทุ่มแล้วนะ

ชายหนุ่มวัยย่างสามสิบห้าเอื้อมมือไปหยิบมือถือมาอีกเครื่องหนึ่ง ซึ่งเอาไว้ใช้เฉพาะเรื่องส่วนตัวเท่านั้น ทั้งติดต่อทางบ้าน วางแผนท่องเที่ยว อ่านนวนิยาย รวมไปถึงการใช้แอพลิเคชันหาคู่ ไอเทมการมีแฟนในยุคไซเบอร์แถมไม่มีเวลาไปไหนมาไหนอีก แถมต้องเผชิญโรคเผชิญฝุ่นที่คนใหญ่คนโตไม่คิดจะจัดการ ไหนจะเรื่องรถสาธารณะที่แพงจนคนรากหญ้าเอื้อมไม่ถึง การดูแลเฉพาะกลุ่มตัวเอง สารพัดที่ประเทศพัฒนาแล้วไม่ทำกันแต่บ้านเราทำ

ไม้เปิดแอพนั้นเพื่อส่งข้อความติดต่อบุคคลที่เขาคุยผ่านแอพนี้มาร่วมครึ่งปีแล้ว โดยไม่มีใครรู้เรื่องนี้ แม้แต่ใบหน้าก็ยังไม่เคยเห็น ถึงแม้ไม้จะลองวิดีโอคอลหากันอยู่หลายครั้ง แต่ ‘หมอก’ ก็ไม่คิดจะเปิดกล้อง ลองนัดที่ร้านกาแฟ ก็บ่ายเบี่ยงเพราะว่าอยู่ต่างประเทศ มีงานตลอด เหตุผลหลังไม่น่าโมโหเท่าเหตุแรก กะอีแค่เปิดหน้าเนี่ยมันอะไรกันนักหนา

แต่กระนั้นข้อเสียก็นับว่าน้อยนิดเท่าหยิบมือ เมื่อเทียบก่อนคนที่เคยผ่านมาในชีวิต ที่ไปทำหญิงท้องบ้าง คบซ้อนบ้างไม่ยอมรับว่าเป็นเกย์บ้าง (ผมชอบผู้ชายไม่ได้ชอบเกย์ พูดมาได้ เฮงซวย!) ทุกครั้งที่คุยกันผ่านข้อความเขาก็เหมือนรู้ใจเราไปเสียทุกอย่าง เพราะหลายครั้งแค่ไม้คิดว่าตนต้องการกินอะไรก็จะมีของชิ้นนั้นส่งมาในวันสองวัน ครั้งแรกบ่นว่าอยากทำแกงส้มใต้กิน แต่ที่ตัวเองอยู่หาอุปกรณ์ทำยาก สองวันต่อมาก็ได้พริกแกงส้มสองกระปุกใหญ่มาส่งถึงคอนโด พอครั้งต่อมาเคยส่งรูปไปว่าอยากกินObachan no Potapota yaki Rice cracker รสมันหวานญี่ปุ่น เพียงเท่านั้นกล่องพัสดุก็ส่งมาถึงคอนโดในวันรุ่งขึ้น

นอกจากนั้นแล้วยามที่เขามีปัญหาเรื่องงานหรือคนร่วมงาน หมอกก็หาวิธีพูดและปฏิบัติตัวให้เขาสามารถหาทางออกที่พึงพอใจต่อทุกฝ่ายได้ แถมมีวิธีพูดให้พ่อแม่ของเขาเปิดใจรับว่าเขาเป็นเกย์ได้ หลังจากที่ไม้กล้า ๆ กลัว ๆ อยู่เกือบสิบปีโดยไม่ต้องเสียดายทีหลังว่าไม่ได้พูดหลังจากพ่อแม่ของเขาเพิ่งเสียไปไม่นานนี้จากโรคประจำตัวที่รุมเร้า ที่สำคัญน้ำเสียงเขาหล่อมาก ไม่รักก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว

เสียงรอรับสายดังขึ้น ไม่รอช้าเขากดปุ่มสีเขียวเพื่อรับสายทันที

“สวัสดีครับหมอก สบายดีไหมครับ”

“สบายดีครับไม้ ไม่ได้คุยตั้งหลายวัน คิดถึงไหมครับ”

“คิดถึงมาก ๆ เลยครับ นี่ผมไม่ได้ยินเสียงคุณมานานแล้ว”

“แหม เว่อร์เกินไป เพิ่งคุยกันไปไม่เกินอาทิตย์เอง คุณโอเคขึ้นแล้วนะครับ” หมอกหมายถึงความเศร้าในใจหลังจากการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของไม้ น่าเสียดายที่ตัวเขาเองไม่ได้มาอยู่ให้กำลังใจเขาเพราะเขาไม่สะดวกจริง ๆ จึงส่งข้อความอัดคลิปเสียงไปตลอด

“โอเคขึ้นเยอะแล้วครับหมอก ว่าแต่มีเสียงอะไรอีกแล้วครับนั่น” ไม้ทักด้วยเสียงอารมณ์ดีจากใจจริงเพราะถึงอย่างไรวันหนึ่งเขาก็ต้องเข้มแข็ง

“ไม่มีอะไรหรอกครับ เสียงจากข้างบ้าน”

“นี่หมอกยังไม่ย้ายออกมาจากบ้านนั่นอีกเหรอครับ ผมเป็นห่วงนะ เสียงนั่นน่ากลัวจะตาย มีใครทำร้ายกันหรือเปล่าก็ไม่รู้” ไม้เป็นห่วงปนไม่พอใจ ตั้งแต่โทรมาคุยกับหมอกก็มีเสียงครางต่ำ ๆ แทรกในการสนทนาอยู่เสมอ ฟังแล้วเหมือนเสียงโหยหวนขอความช่วยเหลืออย่างไรอย่างนั้น บ้างก็เสียงเหมือนคลื่นแทรกแบบเครื่องจับผีอะไรนั่น ถึงแม้ว่าเจ้าตัวจะยืนยันว่าไม่เคยเจออะไรน่ากลัวก็ตาม

“เอาอย่างนี้ไหมครับ เดี๋ยวสักมะเรื่องนี้เดี๋ยวผมไปหาถึงที่เลยครับ ส่งโลเคชั่นมาได้เลย”

“จะไม่ยุ่งยากเหรอครับช่วงนี้ไวรัสระบาดหนักมาก ไหนจะกักตัว ตรวจไข้ เฝ้าดูอาการอย่างต่ำก็สองสัปดาห์ สามวันไม่น่าจะเป็นไปได้”

“เชื่อใจผมได้เลยครับ เพราะบ้านคุณไม่ได้เข้มงวดอะไรอยู่แล้ว” ปลายสายถึงกับยิ้มแห้ง แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธอะไรได้นอกจากส่ายหัวให้กับชะตากรรมกับสิ่งที่ไม่เคยเลือก ไม้ส่งโลเคชั่นของคอนโดตัวเองไปให้ทางแชท ใจนึงก็รู้สึกแปลกกับพฤติกรรมของอีกฝ่ายที่ดูรวดเร็วเหมือนฝัน แต่อีกใจหนึ่งก็รู้สึกดีมากกับการทุ่มเทของเขา บวกกับความดีใจที่จะได้เจอหน้าเขาจริง ๆ เสียที เขาอยากให้ผ่านสามวันนี้ไปไว ๆ จัง

บ่ายแก่ ๆ ของวันนัดหมายมาถึง ไม้แต่งกายด้วยชุดทำงานแบบสุภาพรอว่าที่แฟนหนุ่มที่ล็อบบี้คอนโด เขาหยิบหนังสือพิมพ์ตรงหน้ามาอ่านฆ่าเวลา หน้าหนึ่งปรากฏข่าวดังในกรอบสี่เหลี่ยม ’ชายวัยสามสิบหายตัวไป คาดบุคคลจากแอพหาคู่ ตำรวจมืดแปดด้าน ยังหาเบาะแสไม่พบ’ เขาอ่านต่อหน้า 14 ก็เป็นข่าวการหายตัวไปธรรมดาเหมือนที่ออกสื่อบ่อย ๆ ใช้ทั้งวิธีวิทยาศาสตร์และไสยศาสตร์ตามหา คนสมัยนี้ไว้ใจไม่ได้ มีที่ไหนที่จะนัดคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันไปที่รโหฐาน แต่เอ๊ะ เราก็ทำอยู่นี่นา คงไม่เป็นแบบนั้นกับเราหรอก

ท้ายที่สุดการรอคอยก็สิ้นสุด เขานั่งรออยู่เกือบชั่วโมงในที่สุดคนที่เฝ้ารอก็มาถึง

“สวัสดีครับ ไม้”

เพียงสบตาอีกฝ่ายจากความประทับใจก็กลายเป็นความชังทันใดเมื่อคุณหมอกที่ว่าก็คือไอ้หมอกคนที่ชอบล้อเลียนเขาว่าไอ้ตุ๊ดตั้งแต่สมัยเด็ก!

ว่าแต่ทำไมน้ำเสียงมันไม่ใช่ไอ้หมอกคนนั้น มันผ่าตัดกล่องเสียงมาหรือ?

“สวัสดีครับ หมอก ทำไมหน้าตาเหมือนเพื่อนสมัยเด็กผมเลย”

“เหมือนขนาดนั้นเลยเหรอครับ”

“ใช่ครับ ถ้าไม่ผ่าตัดกล่องเสียงมานี่ ใช่เลย”

“ผมไม่เคยศัลยกรรมมาหรอกครับ ลองจับดูก็ได้ครับ” ไม้ค่อยๆ ใช้มือจับใบหน้าของอีกฝ่ายก็รู้ว่าเป็นของจริง

“ถ้าอย่างนั้น เราจะไปไหนกันดีครับ ช่วงนี้ไม่ค่อยมีที่ไหนเปิดด้วย”

“เอาอย่างนี้ ไปร้านกาแฟโมริ คาเฟ่พอดีผมเป็นหุ้นส่วนร้านกับเพื่อนก่อนไปทำงานเมืองนอกน่ะครับ” ไม้ถึงกับร้องอ๋อในใจ นั่นร้านกาแฟแถวโรงแรมที่เคยไปสัมมนานี่นา กาแฟและขนมอร่อยมากไม่เคยรู้ว่าว่าที่คนรักจะเป็นเจ้าของร่วม

“ได้ครับ ยินดีครับ” ไม้ขึ้นรถ ก่อนที่หมอกจะขับรถออกไปจากลานจอดรถ เขาเปิดแอร์เย็นสบายแต่นั่นกลับทำให้ไม้รู้สึกมึนหัวเหมือนเมารถอย่างที่เขาเองไม่เคยประสบ ก่อนที่เขาจะสลบไป

เขาหลับนานไปเท่าไหร่ไม่รู้ไม่อาจทราบได้ ตื่นขึ้นอีกครั้งเขาก็ต้องอ้าปากค้าง รู้สึกวูบวาบตามความประหลาดใจที่พุ่งเกินร้อย ทั้งที่ตรงหน้าก็คือร้านกาแฟโมริที่ว่าที่แฟนหนุ่มบอกว่าจะมาไม่ใช่หรือ

ก็ใช่ แต่ทันที่ลงจากรถ รอบกายเขาตอนนี้มันไม่เหมือนเดิม เหมือนไม่เคยมีบนโลกที่เขารู้จัก หันไปทางไหนก็พบเพียงยานพาหนะลอยฟ้า เสมือนเครื่องบินที่กำลังจราจรเหมือนรถในกรุงเทพ ตึกรามบ้านช่องรูปทรงแปลกตาเหมือนหนังไซไฟที่เคยดู มันติดแผงโซลาร์เซลล์ไม่ก็ม่านต้นไม้ฟอกอากาศพิษในเมืองหลวง รถไฟฟ้าไฮเปอร์ลูปที่แล่นผ่านรางอย่างรวดเร็วเหมือนที่เคยได้ยินจากใครสักคนที่ไม่มีทางเป็นจริงในบ้านเขาเพราะถูกไล่ออกจากตำแหน่ง บริเวณรอบร้านมี ต้นไม้ที่เหมือนมีสายไฟสีฟ้าพันเอาไว้ เขาทำท่าจะจับแต่หมอกรีบคว้ามือไว้

“อย่าจับนะครับ มันเป็นรั้วเลเซอร์สำหรับป้องกันการลักขโมยต้นไม้ จับแล้วมือขาดนะครับ” ทันใดนั้นกิ่งไม้เล็กที่หลุดจากต้นไม้นั้นก็ผ่านลำแสงนั้น มันขาดออกจากกันทันทีพร้อมกับกลิ่นไหม้

“ที่นี่มันอะไรกันครับ คุณหมอกนี่คุณพาผมมาที่ไหน นี่จะจับผมมาขาย มาฆ่าแกงกันหรือ ทำไมหลอกผมแบบนี้” ไม้โวยวายและพยายามหนีแต่หมอกรั้งเขาไว้ได้

“ผมไม่มีทางทำแบบนั้นกับคุณหรอกครับ เพราะผมรักคุณต่างหากผมจึงอยากให้คุณอยู่ที่นี่ เดี๋ยวเราไปคุยกันในร้านกาแฟโมริดีกว่า อีกอย่างถ้าจะพามาทำร้ายจะพามาร้านกาแฟทำไม ไปที่ลับตาไม่ดีกว่าหรือ” ไม้นิ่งคิดก็จริงอย่างที่ชายหนุ่มว่า เขาสงบอารมณ์ก่อนจะยอมให้อีกฝ่ายจูงมือพาเข้าร้านไป ส่วนหมอกก็เข้าใจดีอยู่ๆก็มาสถานที่แปลกตาแบบนี้ ใครไม่ตกใจก็แปลกแล้ว

ชีสเค้กนิวยอร์กหอมกรุ่นเสิร์ฟพร้อมอเมริกาโน่เย็นสองแก้ว พนักงานร้านเป็นหุ่นไซบอร์กกล่าวก่อนจะยกมาวางไว้บนโต๊ะที่คู่รักนั่ง ก่อนจะยกซดเพราะทางร้านไม่มีหลอดให้ ไม้จึงเริ่มถามทันที

“นี่ใช่ไหมครับที่คุณไม่ยอมให้ไปที่บ้าน”

“ครับ ที่คุณเดินทางมาเนี่ยไกลจากโลกถึงร้อยปีแสงเลยนะครับ กว่าผมจะเก็บเงินเพื่อเดินทางไปรับคุณได้เนี่ยไม่ใช่น้อยๆเลยครับ ราคาเชื้อเพลิงร่วมสิบล้านได้เลย”

“ถ้าคุณจะมาทวงบุญคุณเนี่ยผมไม่มีให้หรอกนะครับ ผมก็แค่มนุษย์เงินเดือน ใช้หนี้เขาก็แทบจะไม่พอกินแล้ว”

“ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมเต็มใจ อ่อเรื่องบ้านผมก็ไม่มีอะไรน่ากลัวหรอกครับก็แค่เสียงไซบอร์ก...หมายถึงแม่บ้านในบ้านน่ะครับ หุ่นเก่าสมัยรุ่นพ่อผม แกรักตัวนี้มากไม่อยากให้ผมทิ้ง คนไม่เคยฟังเสียงแล้วก็แอบขนลุกเบาๆ แต่ผมชินแล้ว”

“ดูจากเทคโนโลยีผมไม่ค่อยแปลกใจว่าทำไมทุกอย่างดูรวดเร็วทั้งส่งของ การขับรถมาที่นี่ แล้วคุณติดต่อผมที่โลกได้ยังไง”

“แอพลิเคชันที่คุณใช้เป็นแอพหาคู่ที่ที่นี่คิดค้นขึ้นมาสำหรับหามนุษย์มาขยายเผ่าพันธุ์บนดาวเรา โดยทางดาวเราได้ส่งคนไปตั้งรกรากบนโลกและพัฒนาแอพขายในสโตร์นั่นแหละ ในการหาคู่เราก็เชื่อมต่อสัญญาณจากที่นี่ให้คนบนดาวได้ติดต่อหาคนรักกัน”

“พูดแบบนี้เหมือนเราเป็นแค่คนผลิตลูกแค่นั้นแหละ ทำเหมือนเราเป็นแค่สินค้า”

“ก็บอกแล้วว่าหาคนรัก ทางรัฐบาลเนี่ยมีความกังวลจากประชากรดาวเรามีอัตราการเกิดต่ำมากเพราะประชากรเรามียีนที่ทำให้มีลูกยาก ทำให้เราต้องหามนุษย์โลกมาเป็นคู่รักซึ่งมีลูกง่ายและเป็นสิ่งมีชีวิตคล้ายคลึงกับคนบนดาวเรามากๆ จึงมีโครงการนี้ขึ้นมา”

“แต่ผมเป็นผู้ชาย มีลูกให้ไม่ได้หรอก”

“ไม่ต้องห่วงครับ ที่นี่มีเทคโนโลยีดีพอสำหรับทำให้ผู้ชายผู้หญิงจากโลกตั้งครรภ์ได้และสกัดยีนร้ายจากน้ำเชื้อหรือไข่ของคนบนดาวเราออกไป ว่าแต่คุณสนใจที่จะอยู่ที่นี่กับผมไหมครับ”

“ใจจริงก็อยากครับ เพียงแต่ว่าผมมีเรื่องงาน...”

“ไม่ต้องห่วงครับ ที่นี่มีสวัสดิการสำหรับผู้มีบุตร บุตรเรียนฟรีจนจบปริญญาตรี มีสถานศึกษาสำหรับเรียนวิชาชีพพร้อมทุกอย่าง คุณใช้เวลาสักพักก็เริ่มทำงานได้ อีกอย่างคุณพ่อคุณแม่ของคุณก็เสียชีวิตไปแล้วด้วย”

ทันใดนั้นก็มีลูกค้าเดินเข้าร้านเพิ่มไม้เห็นคนคุ้นหน้าตา ชายคนนั้น…จำไม่ผิดแน่…เป็นคนที่เคยออกข่าวที่อ่านเมื่อตอนบ่ายนั้น เขายิ้มแย้มมีความสุขกับหญิงคนรักที่กำลังเลือกเค้กอยู่หน้าตู้ แม้ตอนนี้จะตั้งท้องได้ราวสองเดือนแล้วก็ตาม แถมสภาพแวดล้อม สังคมก็ดูโอเคกว่าที่เราจากมาที่ไม่มีแม้แต่ความปลอดภัยในชีวิต

“ตกลงครับ ผมจะใช้ชีวิตกับคุณที่นี่”

หมอกเข้าโผกอดไม้ด้วยความรักใคร่และดีใจที่สุดในชีวิต แม้ว่าในใจไม้ยังคงโหวงเหวงไปบ้างที่จะทิ้งบ้านเกิด ห่างจากเพื่อนเก่ามาอยู่ในสังคมใหม่ เจอแต่คนไม่รู้จัก แต่อย่างน้อยก็ได้อยู่กับคนรัก มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นอย่างที่ควรจะเป็น แม้ไม่รู้ว่าสังคมนี้จะมีมุมมืดอะไรบ้าง ถึงอย่างไรก็ต้องมี มันก็เป็นปกติของทุกสังคมอยู่แล้ว

หลังจากนั้นไม้ตัดสินใจลาออกจากงานประจำที่ทำอยู่โดยระบุเหตุผลเพียงแค่ว่าต้องย้ายถิ่นที่อยู่ก่อนจะหายไปโดยไม่มีใครสามารถติดต่อเขาได้อีกเลย