ค่าตรวจโควิดต่างด้าว อีกอุปสรรคที่รัฐบาลยังมึนๆ ล็อคดาวน์รอบแรก เศรษฐกิจชะงัก แรงงานต่างด้าวไม่มีงานทำ ต่างด้าวจำนวนมากจึงได้เดินทางกลับออกนอกประเทศ พอสถานการณ์ดีขึ้น งานกลับมา ความต้องการแรงงานมีมาก แรงงานเหล่านี้ก็ได้รับการติดต่อให้กลับมาทำงาน แต่เข้ามาแบบถูกต้องไม่ได้เพราะประเทศไทยไม่เปิดประเทศ ก็เลยต้องลักลอบเข้ามาอย่างผิดกฎหมาย เมื่อไม่มีฐานทะเบียน ไม่มีนายจ้างที่เป็นระบบ การติดตามแรงงานต่างด้าวจึงไม่ง่าย และแรงงานต่างด้าวที่หลบหนีเข้าเมืองไม่ได้อยู่แต่ที่มหาชัย แต่มีเกือบทุกจังหวัด เรื่องนี้จึงหนักหนาสากรรฉ์มากๆ ค่าตรวจโควิดในการระบาดในรอบแรก กรณีเข้าเกณฑ์สอบสวนโรคที่เป็นแรงงานต่างด้าว กติกาแจ้งว่าให้ตรวจและเบิกเงินค่าตรวจได้ที่กรมควบคุมโรค แต่ความจริงคือ นับตั้งแต่เดือนเมษายนถึงกันยายน 2563 ไม่มีเงิน ไม่ได้มีการจัดสรรคืนให้กับโรงพยาบาลที่ตรวจแต่อย่างใด กลายเป็นว่าโรงพยาบาลไหนรับตรวจ lab มากก็เข้าเนื้อมาก การตรวจแรงงานต่างด้าวในปัจจุบัน ยังไม่มีค่าตรวจ lab คืนให้กับทางโรงพยาบาล ที่ผ่านมาโรงพยาบาลต่างๆsetห้องlabขึ้นมาด้วยศักยภาพของโรงพยาบาลเอง ต่างคนต่างควักกระเป๋าเงินบำรุงมาทำเองโดยไม่มีงอแง จนสู้ภัยโควิดรอบแรกได้สำเร็จ แต่สุดท้ายระบบใหญ่กลับไม่มีการดูแลกัน กรมควบคุมโรคไม่รู้มีงบหรือไม่มีงบค่าตรวจ lab แต่ที่แน่ๆปัจจุบันโรงพยาบาลที่ดำเนินการตรวจให้กับกลุ่มแรงงานต่างด้าวไม่รู้อนาคตว่าจะได้การจัดสรรงบคืนหรือไม่ โรงพยาบาลต่างๆขยันทำงานแข็งขันแน่นอน ขอเพียงรัฐบาลวางระบบส่งกระสุนค่าตรวจlabต่างด้าวมาให้กับโรงพยาบาลที่รับตรวจด้วย หากบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวแบบคนต่างด้าว ไม่ใช่แบบคนไทย ก็ยากที่จะแก้ปัญหาได้ ควรที่รัฐบาลจะปรับระบบ แก้ปัญหาด้วยการเปิดให้มีสิทธิในการตรวจหาเชื้อโควิดเช่นเดียวกับคนไทย โดยที่โรงพยาบาลต้องได้รับเงินชดเชยคืนมาเช่นเดียวกับคนไทย เพื่อการควบคุมโรคที่สมบูรณ์ Cr. Post โดยชมรมแพทย์ชนบท 23 ธันวาคม 2563