Keanu Reeves - บุคคลแบบอย่างของคนรุ่นปัจจุบัน (Keanu Reeves - Our Generation's Role Model!)
-----------------------------
ผมกำลังเดินอยู่และตัดสินใจหยุดเดินเพื่อจะเข้าไปกินอาหารกลางวันที่ร้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง ผมมองออกไปที่หน้าต่าง ก็เห็นเด็กผู้หญิงวัยรุ่นคนหนึ่ง นั่งยองๆ อยู่ข้างๆ ขอบถนนท่ามกลางอากาศอันหนาวเหน็บ พร้อมทั้งซุกมือทั้งสองของเธออยู่ใต้ผ้าห่มเล็กๆ ที่ม้วนอยู่ จากนั้น เธอก็เอามือออกมาแบขอเงิน ผู้คนส่วนมากที่เดินผ่านไป ก็เพิกเฉยต่อเธอ ดูเหมือนกับว่าเธอจะยอมแพ้ต่อความหวังใดๆ เสียแล้ว
ผมกินอาหารของผมจนเสร็จและเดินออกไปข้างนอก พร้อมกับสำรวจดูกระเป๋าเงินของผม และคิดว่าจะให้เงินสดกับเธอ $5 เพื่อเธอจะได้ซื้อหาอาหารได้ ผมก็ออกไปคุยกับเธอในขณะที่เธอกำลังร้องห่มร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่ ดูหน้าตาของเธอก็เหมือนกับว่า เธอเพิ่งจะอายุราวๆ 14-15 ปีเท่านั้น และสิ่งที่อยู่ในอ้อมกอดของเธอ ก็คือ เด็กตัวเล็กๆ ที่หุ้มห่ออยู่ในม้วนผ้า ผมมีความรู้สึกเหมือนกับว่า ผมถูกทุบตรงลงมาที่หน้าอกอย่างแรง เธอมองหน้าขึ้นมาด้วยสายตาแบบใจดีสู้เสือ อย่างปราศจากตื่นตระหนก และถามผมว่ามีเศษเงินให้เธอบ้างหรือเปล่า ผมถามเธอว่า เธออยากจะกินอาหารกลางวันหรือเปล่า ผมก็เดินเข้าไปในร้านขายของชำเล็กๆ อยู่ตรงข้างหน้า และก็ไปซื้อนมผงสำหรับเด็กแรกเกิดมาให้ (คงจะเป็นเด็กแรกเกิด อายุเพียง 2-3 เดือนเท่านั้น) และจากนั้น ผมก็พาเธอเข้าไปกินอาหารในร้านอาหารซึ่งผมเพิ่งจะไปกินมาหยกๆ เธอกล่าวขอบคุณกับผม และเธอสั่งแฮมเบอร์เกอร์ เพียงเพื่อจะสูดดมดูว่า กลิ่นมันเป็นอย่างไรเท่านั้น พร้อมทั้งสั่งพายและไอศครีมมาให้เธอกินด้วย หลังจากกินอาหารแล้ว เธอก็เริ่มเปิดเผยชีวิตความเป็นมาของเธอ และเราก็เริ่มคุยกัน เมื่อเธออายุ 15 ปี เธอได้ตั้งครรภ์ขึ้นมา พ่อแม่ของเธอโกรธเธอเป็นอย่างมาก และเธอก็ต่อสู้ด้วยการทะเลาะกับเขาทั้งสอง เธอตัดสินใจหนีออกไปจากบ้าน เธอออกมาจากบ้านมาเป็นเวลาเกือบหนึ่งปีเต็มแล้ว
ผมถามเธอว่า เธออยากจะกลับบ้านหรือไม่ และเธอก็นั่งเงียบสนิท ผมเกลี้ยกล่อมเธอ และเธอก็บอกว่า พ่อแม่ของเธอไม่ต้องการให้เธอกลับบ้านอย่างแน่นอน ผมก็ยังเกลี้ยกล่อมเธอต่อไป เธอยอมรับว่า เธอขโมยเงินสดของพ่อเธอออกมา 5 พันเหรียญ ปรากฎว่า เงิน 5 พันเหรียญนั้น มันไม่สามารถทำให้เธอดำรงชีวิตต่อด้วยเวลายาวนานแต่อย่างใด และการใช้ชีวิตบนท้องถนนนั้น มันเป็นเรื่องที่ลำบากยากเข็ญเป็นอย่างมากสำหรับคนอายุเพียงแค่ 15 ปีอย่างเธอ มันเป็นชีวิตอันแสนลำบากจริงๆ แต่ในที่สุดเธอก็บอกว่า จริงๆ แล้วเธอก็อยากต้องการกลับบ้าน แต่เธอมีความกลัวที่ว่า ไม่มีใครต้องการให้เธอกลับไป หลังจากสิ่งที่เธอได้ก่อกระทำไว้
เราก็ยังพูดคุยมากขึ้น ผมต้องการให้เธอใช้โทรศัพท์มือถือของผม เพื่อที่จะโทรกลับบ้าน แต่เธอก็ไม่ยอม ผมบอกเธอว่า ผมสามารถโทรให้ได้ และเราจะได้รู้กันว่า พ่อแม่ของเธอยังต้องการพูดกับเธออยู่หรือเปล่า เธอลังเลใจอยู่ขณะหนึ่งพร้อมกับอ้างคำแก้ตัวแบบน้ำขุ่นๆ ขึ้นมา แต่ในท้ายที่สุด เธอก็ยอมโทรกลับบ้าน เธอกดเลขโทรศัพท์และผมก็หยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมาถือ แม่ของเธอเป็นผู้รับสาย และผมก็กล่าวสวัสดีให้ มันเป็นเรื่องที่เจื่อนๆ นิดหน่อย ที่ผมเป็นผู้แนะนำตัวของผมเองให้กับเธอ และพูดต่อว่า ลูกสาวของเธอต้องการที่จะพูดกับเธอ ความเงียบเข้ามาครอบคลุมอยู่ชั่วขณะหนึ่งในขณะที่ผมกำลังพูดกับแม่ของเธอ จากนั้น ผมก็ได้ยินเสียงร้องไห้ออกมา ผมส่งโทรศัพท์ไปให้กับตัวลูกสาว และเธอก็ฟังเสียงแม่ข้องเธอร้องไห้อยู่อย่างเงียบๆ จากนั้น เธอก็กล่าว สวัสดีให้กับแม่ของเธอ และเธอก็ร้องห่มร้องไห้ตามไปด้วย
ทั้งสองฝ่ายก็เริ่มพูดคุยกันมากขึ้น ตัวลูกสาวก็ส่งโทรศัพท์กลับมาให้กับผม ผมก็คุยกับแม่ของเธอต่ออีกสักพักหนึ่ง
ผมขับรถไปส่งเธอที่สถานีรถประจำทาง และซื้อตั่วรถโดยสารให้กับเธอเพื่อที่เธอจะได้เดินทางกลับบ้าน ผมยังให้เงินสดติดตัวเธออีก $100 สำหรับการพบของเราอย่างบังเอิญ รวมทั้งซื้อพวก นมผง, ผ้าอ้อมเด็ก, ผ้าเปียกเพื่อเช็ดทำความสะอาด รวมทั้งของขบเคี้ยวต่างๆ เพื่อเธอจะได้กินระหว่างการเดินทาง
ก่อนที่เธอจะขึ้นรถโดยสาร เธอก็ร้องห่มร้องไห้ไม่หยุด และกล่าวขอบคุณให้กับผมเป็นจำนวนหลายสิบครั้ง ผมจูบที่หน้าผากของเธอและสวมกอดเธอเพื่อการอำลา รวมทั้งจูบลูกของเธอด้วย และจากนั้น เธอก็ขึ้นรถโดยสารเพื่อเดินทางกลับบ้าน ผมได้รับการ์ดคริสต์มาสจากเธอทุกๆ ปี เวลานี้ เธออายุ 21 ปีแล้ว และกำลังศึกษาอยู่ในระดับอุดมศึกษา ผมไม่เคยคิดแม้แต่จะเล่าเรื่องนี้ให้ใครต่อใครได้ทราบกันเลย ผมเพียงแต่มีความรู้สึกที่ดี ที่ว่า ผมได้กระทำการบางสิ่งบางอย่างที่ดีให้กับโลกใบนี้ เราสามารถเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ ไปในสิ่งที่เราปรารถนาได้เสมอ...
-----------------------------
ความคิดเห็นของผู้แปล:
เรื่องของคุณ Keanu Reeves นี้ เป็นเรื่องความเมตตาอีกเรื่องหนึ่งที่เห็นโพสต์กันตามหน้าเวป และมีการนำเอาเรื่องนี้ไปเผยแพร่กันตามออนไลน์หลายแห่ง พอเห็นแล้ว ก็เลยแปลมาให้เพื่อนๆ ได้อ่านกัน เผื่อว่า จิตใจความเหี้ยมเกรียมเกลียดชัง มันสามารถลดน้อยลงได้บ้าง
เรื่องนี้ สามารถอ้างอิงจากเวปต่างๆ ตัวอย่างเช่น: Keanu Reeves helped a teenage girl who had ran away from home – this proves he’s our generation’s role model! ซึ่งกล่าวว่า คุณ Reeves คือ บุคคลที่น่ายกย่องเป็นตัวอย่างของคนทำความดีในรุ่นปัจจุบัน !
เรื่องนี้ สอนให้เราทราบถุึงบทเรียนเรื่องหนึ่ง คือ อย่าไปทำการตัดสินผู้คนที่เราเห็นจากการเดินผ่านไปผ่านมาของเรากันอย่างรีบด่วน เพราะทุกๆ คนต่างก็มีช่วงเวลาวิถีของชีวิตของเขาหรือของเธอเองมาก่อน ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องดีหรือเรื่องเลวเกิดขึ้น อย่าไปมองข้ามในเรื่องนี้กัน
เท่าที่ทราบมา คุณ Reeves เอง ก็ชอบใช้ชีวิตอย่างธรรมดาสามัญ โดยเฉพาะไปพูดคุยกับผู้คน โดยเฉพาะคนที่ไร้บ้าน หรือ แม้แต่ขอทานข้างถนน เพราะมีรูปออกมาให้เห็นกันอย่างบ่อยครั้งเลยทีเดียว (ดูจากรูปที่สามจากการโพสต์)
และในสถานการณ์จริงๆ แล้ว Matrix ของ Neo ก็คือ การใช้ชีวิตแบบ "ติดดิน" มั้งคะ ไม่ทราบว่าไปกินยาสีแดง หรือ สีน้ำเงินเข้าไป ตนเองถึงกลายเป็นแบบนี้ได้?
-----------------------------
และเราก็คงจะเห็นประวัติจากคุณ Reeves เองว่า เป็นอย่างไรบ้าง จากวิดีโอชุดนี้ค่ะ --
> Keanu Reeves - ดาราเดินดิน ----
-----------------------------
ปล. ขอเสริมด้วยลิ้งค์เรื่องที่เพิ่งโพสต์ไปด้วย: ความเมตตาของคุณ George Clooney:
-----------------------------
เราก็คงจะเห็นแล้วว่า ดาราระดับร้อยล้านเหรียญอย่างคุณ Reeves นั้น เป็นคนที่ "ติดดิน" ขนาดไหน โดยไม่จำเป็นต้องเสแสร้ง หรือ ทำการ "สร้างภาพ" แต่อย่างใด เพราะมี "ผลงาน" ด้วย "ภาพถ่าย" ออกมาให้ทางสาธารณะได้เห็นกันอยู่เรื่อยๆ
หวังว่า วันนี้คงจะเป็น วันจันทร์อันสดใสนะคะ...
Happy Monday ค่ะ